ทำธุรกิจ daxin ดีจริงรึเปล่า?
รายละเอียด เป็นธุรกิจผลิตภัณฑ์ผสมเห็ดหลินจือ เป็นบริษัทแรกของคนไทยที่นำเข้าเห็ดหลินจือรากและดอก 6 สายพันธ์ ก่อตั้งมา 22 ปีมาแล้วครับ ใช้วิธีการจำหน่ายแบบ Multi Level Marketing จ่ายผลตอบแทนในรูปแบบเครือข่าย
โดยจะมีรายได้จาก 4 ทาง
1.รายได้จากการใช่สินค้า
2.รายจากการขายปลีก
3.รายได้จากการสร้างเครือข่าย
4.รายได้จากการบริหารทีม (ช่วยให้คนที่เราแนะนำทำงานมีรายได้)
1.รายได้จากการใช่สินค้า
2.รายจากการขายปลีก
3.รายได้จากการสร้างเครือข่าย
4.รายได้จากการบริหารทีม (ช่วยให้คนที่เราแนะนำทำงานมีรายได้)
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาร่วมทำธุรกิจ ใช้เงินลงทุนน้อย มากๆ แค่ 700-1,950 บาท เท่านั้น หากเทียบกับธุรกิจเครือข่ายทั่วๆไป ซึ่งต้องมีค่าสมัครแพงๆ.
บริษัท แด๊กซิน ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมธุรกิจด้วย 2 แพ็คเกจ.
1.แพ็คเกจเล็ก สมัครสมาชิก 700 บาท ได้ชุดทดลองเห็ดหลินจือ 1 ชุดใหญ่, กาแฟผสมหลินจือ 1 กล่อง,กระเป๋าอเนกประสงค์ 1
ใบ รวมมูลค่า 1,000 กว่าบาท ฟรี! ได้ส่วนลด 20-30% มีสิทธิ์ได้รับรายได้ไม่จำกัด.
2.แพ็คเกจใหญ่ ซื้อเห็ดหลินจือ ชุดใหญ่ 1 ชุด และกาแฟ 1 กล่อง มูลค่า 1,950 บาท ได้เป็นสมาชิกตลอดชีพทันที
มีสิทธิ์ได้รับรายได้ไม่จำกัด.
คำถามเรื่องดียังไง?
ข้อดี สินค้าดี ใช้แล้วหมดไป มีการซื้อซ้ำ ใช้แล้วเห็นผลไว, เป็นเห็ดหลินจือสกัด
รากและดอก 6
สายพันธุ์, กาแฟสดบรรจุซอง มีกาแฟดำ,อาหารเสริม
,สกินแคร์, ของใช้ประจำวัน ,ผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตร
ขายง่าย เพราะคนส่วนใหญ่ต้องกินต้องใช้ ทำตลาดได้กับคนทุก
ราคาถูกกว่ายี่ห้อดังๆ
ข้อเสีย มีน้อยมาก เช่นไม่สามารถขายได้กับคนที่ไม่ชอบดูแลสุขภาพ,
ไม่ชอบดื่มกาแฟ, ไม่ชอบทานอาหารเสริม, ไม่ชอบใช้ปุ๋ยออร์แกนิค (ก็น่าจะมีแค่นั้น)
คำถามเรื่องรายได้ดีมั้ย?
รายได้เกิดขึ้นจาก 4 ข้อแรก ที่บอกไป
คือ
1.รายได้จากการใช้สินค้า ยิ่งใช้ ยิ่งได้.
1.รายได้จากการใช้สินค้า ยิ่งใช้ ยิ่งได้.
2.รายได้จากการขายปลีก เช่น ขายเห็ดหลินจือ รายได้ต่อชุดใหญ่ ก็ 360 บาท (ขายได้มากรายได้ก็มาก)
3.รายได้จากการแนะนำ, ขยาย, แบ่งปัน เปรียบได้กับตัวเราเป็นเจ้าหุ้นส่วนบริษัท
แนะนำให้คนเข้าร่วมธุรกิจได้มากเท่าไร ก็มีรายได้มากตามจำนวนที่แนะนำได้ เช่น
แนะนำให้คนซื้อชุดสมัครใหญ่ 1,950 บาท ได้เห็ดหลินจือ 1
ชุดใหญ่ และ กาแฟ 1 กล่อง 20 ซอง , บริษัทจ่ายให้ผู้แนะนำ 500 บาท.
3.รายได้จากการดูแลองค์กร นั้นก็คือ
เมื่อคนที่เราแนะนำสามารถขยายธุรกิจได้เป็นจำนวนมาก บริษัทก็มีค่าตอบแทนเป็น %
ให้กับตัวเรา.
สรุป รายได้ทั้ง 4 ทาง รวมกันประมาณ 73% ดังนั้น ผู้ร่วมธุรกิจ จะต้องทำให้ครบทั้ง 4 อย่าง
ก็จะมีรายได้ที่มากครับ ถ้าไม่ทำ รายได้ก็ไม่เกิดครับ.
เปรียบได้กับ ซื้อแฟรนไซส์ แล้วไม่เปิดร้าน ยังไงรายได้ก็ไม่เกิดครับ.
มีอะไรแอบแฝงมั้ย ?
ถ้าอ่านตามที่ผมได้บอกมาทั้งหมด ก็ไม่มีอะไรแอบแฝงแล้วครับ
ถ้าเข้าใจรูปแบบการทำธุรกิจ ก็สามารถทำธุรกิจนี้ได้
ส่วนเรื่องการรักษายอด ถ้าคนที่ทำธุรกิจจริงๆ
ขายสินค้าทุกวัน แนะนำคนทุกวัน การรักษายอด จะไม่มีปัญหาเลยครับ
เปรียบได้กับการทำธุรกิจแฟรนไซส์ทั่วไป หลังจากตกลงซื้อแฟรนไซส์ แล้ว
ก็ต้องลงทุนซื้อสินค้าไว้ขาย
ถามว่า สินค้าชุดแรกขายหมด คุณก็ต้องซื้อสินค้ารอบต่อไปในแต่ละเดือน
หรือแต่ละวัน ก็เทียบได้กับการรักษายอดเช่นกัน
เพียงแต่วันนี้ คนส่วนใหญ่
มองการรักษายอดเป็นภาระ เพราะไม่ได้ทำ 2 สิ่งคือ ขาย และแนะนำคน
เปรียบได้กับ การซื้อแฟรนไซส์ ก๋วยเตี๋ยว สักเจ้า ถ้าซื้อมาแล้ว ได้อุปกรณ์มาครบถ้วน
แต่ไม่ได้นำร้าน
ออกไปตั้งขายเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ซื้อแฟรนไซส์มา ก็กองอยู่เต็มบ้าน
ซึ่งไม่ต่างกับการปิดยอดซื้อสินค้า
ในธุรกิจเครือข่าย แล้วไม่ได้ทำอะไร
เมื่อไม่ได้ทำอะไร
ใครจะอยากรักษายอด เพราะของก็ยังกองเต็มบ้าน ก็เหมือนแฟรนไซส์ ร้านก๋วยเตี๋ยว
ยังไม่เปิดร้าน ไม่ออกไปตั้งรถเข็นขายที่ตลาด เส้นใหญ่ เส้นเล็ก
ลูกชิ้น ต่างๆ เหล่านี้ก็กองเต็มบ้านไปหมดe
แถมมีโอกาสเสียได้อีก แล้วเมื่อเวลาผ่านไปครบ 1 เดือน
ถ้าคุณยังไม่ได้ออกไปขายเหมือนเดิม
เจ้าของแฟรนไซส์ โทรมาสอบถาม ว่าจะรับเส้นเพิ่มหรือเปล่า คุณจะซื้อ
เส้น ลูกชิ้นเพิ่มอีกมั้ยละครับ ก็คงไม่ซื้อ
ถ้าซื้อเพิ่ม คุณก็เข้าใจอะไรผิดบางอย่าง ว่าการซื้อเส้นและลูกชิ้น
ตุนไว้ จะทำให้คุณมีรายได้มากขึ้นคุณก็หมดตัว
ก็เหมือนกับธุรกิจเครือข่าย ที่รักษายอดโดยที่คุณไม่ได้ทำอะไร
คุณก็หมดตัวได้เช่นกัน
คิดว่าน่าจะตอบได้ครบทุกคำถามนะครับ ^ . ^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น